วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม....สมเด็จพระญาณสังวร

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม 
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



• สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”

พระพุทธศาสนสุภาษิตบทนี้เป็นคำตอบที่ชัดแจ้ง 
สำหรับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นมากมาย ว่าทำไมโลกทุกวันนี้จึงร้อนนัก 
เต็มไปด้วยความเลวร้ายต่างๆ นานาที่ไม่เคยมีมาก่อน 
ทั้งมรสุมใหญ่ ทั้งน้ำไฟทำลาย ทั้งโจรร้ายเข่นฆ่า 
ทั้งความเมตตากรุณาสิ้นจากจิตใจ ทั้งความขาดแคลนทุกข์ยากทั่วไปทั้งแผ่นดิน 
ความกตัญญูก็สิ้นสูญหมด ลูกหลานทรยศแม่พ่อพี่ป้าน้าอาปู่ย่าตายาย 
ถึงทุบตีเข่นฆ่าทำทารุณกรรม 
ครูอาจารย์ก็ทำร้ายได้ทั้งร่ายกายและจิตใจศิษย์น้อยๆ 
ทำชีวิตให้พลอยสิ้นสุด จนถึงเกิดเป็นปัญหาว่า...

ทำไมเมืองพระพุทธศาสนาจึงเป็นเช่นนี้ได้ ?
ทำไมความเดือนร้อนชั่วร้ายจึงมากมายนัก ?
ทำไมผู้คนจึงลำบากยากแค้นนัก ตกอยู่ในสภาพที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงนัก
“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” นี่คือคำตอบ


• กรรม...คือการกระทำทั้งที่ดีและไม่ดี...

กรรมหมายถึงการกระทำ ซึ่งมีความหมายเป็นกลาง คือ มีทั้งที่ดีและที่ไม่ดี

การกระทำที่ดีเป็นกรรมดี การกระทำที่ไม่ดีเป็นกรรมไม่ดี 
แต่ที่นำมาใช้นั้นเข้าใจว่า กรรม คือ ความไม่ดีสถานเดียว 
เช่น เมื่อมีอะไรร้ายๆ เกิดแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง 
ก็จะกล่าวว่ากรรมของเขา คือ ความไม่ดีของเขา

“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” ที่เป็นคำในพระพุทธศาสนสุภาษิต 
มีความหมายว่า คนและสัตว์ทั้งหลายที่เป็นไปต่างๆ นานา 
ทุกข์ก็มี สุขก็มี ดีก็มี ชั่วก็มี มิได้เกิดแต่ผู้ใดอื่น มิได้เกิดแต่อะไรอื่น 
มิใช่เกิดแต่เหตุใดทั้งนั้น นอกจากกรรมที่ตนได้กระทำแล้วเองเท่านั้น

• อำนาจแห่งกรรมของตนเอง

ผู้ที่เป็นมนุษย์ในชาตินี้ อาจเกิดเป็นสัตว์ในชาติหน้าได้ 
ด้วยอำนาจแห่งกรรมของตนเอง ที่เพียงพอแก่ความเป็นสัตว์ 
ซึ่งมีต่างๆ ประเภท ทั้งหมู หมา กา ไก่ วัด ช้าง ม้า 
ที่อำนาจกรรมอาจนำให้มนุษย์ไปเกิดได้ประเภทนั้นๆ

ในพระพุทธศาสนามีเรื่องเล่าถึง พระภิกษุรูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล 
ที่ประพฤติดี ประพฤติชอบมาตลอด 
ก่อนแต่จะมรณภาพได้จีวรมาผืนหนึ่งซักตากไว้บนราว 
ด้วยมีใจผูกพันยินดีที่จะไครองจีวรใหม่ 
เกิดมรณภาพในช่วงเวลาก่อนจะทันได้ใช้จีวร 
เพื่อนภิกษุจะถือจีวรนั้นเป็นของตน 
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ 
มีพระพุทธดำรัสให้รอก่อน ๗ วัน

เพราะขณะนั้นพระภิกษุผู้เป็นเจ้าของได้ไปเกิดเป็นเล็นเกาะติดอยู่กับผ้าจีวร 
อายุของเล็นอยู่นานเพียง ๗ วัน จากนั้นจะได้ไปเสวยผลแห่งกรรมดี
ที่พระภิกษุรูปนั้นได้ประกอบกระทำไว้เป็นอันมาก 
นี้เป็นเรื่องแสดงอำนาจของกรรทางใจที่ใหญ่ยิ่ง 
อาจนำให้พระภิกษุไปเกิดเป็นสัตว์ได้

• ทุกสิ่งเป็นไปตามอำนาจแห่งใจ

ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ 
มนุษย์ต้องไปเกิดเป็นสัตว์ก็เพราะอำนาจแห่งใจ 
มีเรื่องของพระภิกษุสำคัญองค์หนึ่งในพระพุทธศาสนา 
ท่านเป็นพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ได้เล่าไว้
และมีผู้นำมาเขียนให้ได้อ่านกันต่อมา ท่านเล่าว่า 
ท่านต้องไปเกิดเป็นไก่หลายชาติ เหตุเพราะมีใช้ผูกพันในแม่ไก่ 
กว่าจะรอดกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็นานนักหนา


ต่อมาเมื่อได้มาเกิดเป็นมนุษย์ 
ได้ปฏิบัติธรรมคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า 
มีความรู้สึกรู้ไกลไปในอดีตหลายภพชาติ 
จึงประจักษ์ในอำนาจของจิตว่ายิ่งใหญ่นัก 
สามารถทำให้มนุษย์ไปเกิดเป็นสัตว์ได้ 
และทำให้สัตว์วนเวียนอยู่ในภพภูมิที่ต่ำนักหนาได้ 
ควรจะสลดสังเวชและควรจะกลัวอำนาจของจิตที่ตั้งไว้ผิดยิ่งนัก


• ความไม่เข้าใจในเรื่องของกรรม

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แม้จะเป็นจริงเช่นนี้ 
แต่มีผู้ที่เชื่อว่าเป็นจริงเพียงจำนวนน้อยนัก เพราะไม่มีภาพให้เห็นว่า 
เมื่อชีวิตออกจากร่างของคนคนหนึ่งไป ก็ไปเป็นอีกร่างหนึ่งได้ 
เช่น หมู หมา กา ไก่ ความไม่ได้เห็นชัดๆ ด้วยตาเนื้อเช่นนี้
ทำให้คนส่วนมากยากจะเชื่อว่าคนก็เกิดเป็นสัตว์ได้ สัตว์ก็เกิดเป็นคนได้

คนฐานะสูงก็เกิดเป็นคนฐานะต่ำได้ คนฐานะต่ำก็เกิดเป็นคนฐานะสูงได้ 
คนร่างกายดีๆ ก็เกิดเป็นคนแขนด้วนขาด้วนได้ 
คนพิการแขนด้วนขาด้วนก็เกิดเป็นคนมีแขนมีขาได้ 
คนหน้าตาน่าเกลียดผิดพรรณเศร้าหมอง ก็เกิดเป็นคนสวยคนงามได้ 
คนสวยคนงามก็เกิดเป็นคนน่าเกลียดน่าชัง ผิดพรรณเศร้าหมองได้ 
ยิ่งกว่านั้นคนก็เกิดเป็นเทวดาได้ และเทวดาก็เกิดเป็นคนได้

ความไม่เห็นด้วยตาเนื้อ ประกอบกับความไม่มีความเข้าใจในเรื่องกรรม 
และการให้ผลของกรรม ที่ทำให้คนส่วนมากไม่กลัวการเกิดใหม่ 
ว่าจะนำไปสู่สภาพหรือภพชาติที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เช่นเป็นสัตว์นรก

• ผู้ไม่เชื่อเรื่องมโนกรรม...น่าสงสารที่สุด

ใจสำคัญที่สุด ใจต้องคิดไปก่อน เป็นมโนกรรม...กรรมทางใจ 
อะไรๆ จึงจะเป็นผลตามมา จะดีหรือจะชั่วก็แล้วแต่ใจจะคิดดีหรือคิดชั่ว 
ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องกรรมที่เกดจากใจคิด เป็นผู้ที่น่าสงสารที่สุด 
เพราะเขามีโอกาสที่จะตกอยู่ในสภาพที่เลวร้าย น่าสลดสังเวชยิ่งนัก

สภาพที่เกิดแต่ใจคิดนำไปนั้น เกิดได้ทั้งในภพชาติปัจจุบันนี้ 
ตลอดไปจนถึงภพชาติข้างหน้า อย่างที่ว่าแม้คนก็เกิดเป็นสัตว์ได้ 
แม้คนก็เกิดเป็นเทวดาได้ และแม้สัตว์ก็เกิดเป็นคนได้ แม้สัตว์ก็เกิดเป็นเทวดาได้

• การระวังใจ...สำคัญยิ่งนัก

การระวังใจจึงสำคัญยิ่งนัก ปล่อยใจให้คิดสูงส่งงดงามไปด้วยบุญกุศล 
ชาตินี้ก็เป็นสุขเบิกบานด้วยอำนาจของบุญกุศลที่ใจคิดถึง 
ละชาตินี้ไปแล้วจะได้มีชาติใหม่ที่งดงาม 
ควรแก่ความงดงามของความคิดที่อยู่ในจิตใจ

ผู้พรั่งพร้อมด้วยสมบัติทั้งกายและทางใจที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน 
คือ ผู้ที่เป็นไปตามอำนาจของใจในอดีต 
อันย่อมมีผลสืบเนื่องถึงอำนาจของใจในภพชาติใหม่ด้วย 
ส่วนผู้ที่ปล่อยใจให้คิดต่ำทรามชั่วร้าย...ด้วยบาปอกุศล 
ชาตินี้ก็เป็นทุกข์เร่าร้อนด้วยอำนาจของบาปอกุศลที่ใจคิดถึง 
ละไปแล้วจะได้มีชาติใหม่ที่ต่ำทรามบกพร่อง 
ควรแก่ความต่ำช้าของความคิดที่มีอยู่ในจิตใจ

ผู้ขาดแคลนทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ 
ที่เห็นกันอยู่ไม่น้อยในปัจจุบัน คือ ผู้เป็นไปตามอำนาจของใจในอดีต 
อันย่อมมีผลสืบเนื่องถึงอำนาจของใจในภพชาติใหม่ด้วย 
จึงพึงระวังความคิดให้อย่างยิ่ง ให้งดงามด้วยบุญกุศลไว้เสมอ 
จะได้ไม่ต้องมีสภาพที่ไม่เป็นที่พึงปรารถนา


• ความคิด...เป็นเหตุแห่งสุขและทุกข์

ความคิดเป็นเหตุแห่งความทุกข์ และความคิดก็เป็นเหตุแห่งความสุขได้ 
พึงรอบคอบในการใช้ความคิด คิดให้ดี คิดให้งาม คิดให้ถูก คิดให้ชอบ 
แล้วชีวิตในชาตินี้ก็จะงดงาม สืบเนื่องไปถึงภพชาติใหม่ได้ด้วย


ระวังความคิดให้ดีที่สุด เพราะความคิดที่ผูกพันในสิ่งไม่สมควร
ที่ทำให้พระภิกษุองค์หนึ่งต้องไปเกิดเป็นเล็น 
อีกองค์หนึ่งต้องไปเกิดเป็นไก่อยู่หลายภพหลายชาติ 
เราทั้งหลายหาได้มีบุญสมบัติเสมอพระภิกษุทั้งสองนั้นไม่ 
ความคิดที่ผิดพลาดของเราจะมินำเราไปเป็นอะไรที่น่ากลัวเหลือเกินหรือ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก